ยาอีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื้อรังในสมองของมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์กล่าวว่าการใช้ยาอี (Ecstasy ) บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายที่ทำให้เกิดอาการสุขสมหวังและอารมณ์รุนแรง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเรื้อรังในสมอง ของ มนุษย์

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Archives of General Psychiatry นำเสนอหลักฐานว่ายาอีทำให้เกิด ภาวะ เซโรโทนินเป็นพิษต่อระบบประสาทในระยะยาวในร่างกายมนุษย์

“การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่ายาทำให้เกิดการสูญเสียเซโรโทนินเรื้อรังในร่างกายมนุษย์” โรนัลด์ โคแวน ผู้เขียนผลการศึกษากล่าว

เซโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทที่รับผิดชอบในการควบคุมอารมณ์ ความอยากอาหารการนอนหลับการเรียนรู้ และความจำ

การวิจัยนี้มีความสำคัญเนื่องจาก MDMA (ชื่อทางเคมีของยาอี) อาจมีผลในการบำบัด และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดลองทางคลินิกเพื่อรักษาโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความวิตกกังวลที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง

“สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาอี การพิสูจน์ว่า MDMA ปลอดภัยในระหว่างการทดลองทางคลินิกจะทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ยาเองได้ ดังนั้น การทราบปริมาณยาที่ทำให้เกิดพิษจึงมีความสำคัญ” โคแวนกล่าว

ในการศึกษาปัจจุบัน Cowan และเพื่อนร่วมงานใช้การถ่ายภาพด้วยเครื่องถ่ายภาพรังสีโพซิตรอน (PET)เพื่อตรวจระดับตัวรับเซโรโทนิน-2A ในบริเวณต่างๆ ของสมองในผู้หญิงที่ใช้ยาอีและผู้หญิงที่ไม่เคยใช้ยานี้มาก่อน นักวิจัยจำกัดการศึกษาเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น เนื่องจากการวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นความแตกต่างทางเพศในระดับตัวรับเซโรโทนิน

ผลการศึกษาพบว่ายาอีเพิ่มระดับตัวรับเซโรโทนิน-2A และการใช้ยาในระยะเวลานานขึ้น (หรือใช้ยาในปริมาณที่มากขึ้น) มีความสัมพันธ์กับระดับตัวรับเซโรโทนินที่สูงขึ้น ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับการศึกษาวิจัยบางกรณีที่ใช้สัตว์ทดลองเป็นแบบจำลอง โดยพบว่าจำนวนตัวรับเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการเพิ่มขนาดยาเพื่อชดเชยการสูญเสียเซโรโทนิน

ก่อนหน้านี้ Cowan และเพื่อนร่วมงานของเขาได้รายงานว่ายาอีกระตุ้นสมองในสามบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาพ "เมื่อพิจารณาร่วมกันแล้ว การศึกษาทั้งสองนี้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ายาอีทำให้กิจกรรมของเซโรโทนินในสมองเปลี่ยนแปลงไปในระยะยาว" Cowan กล่าว "การทราบว่ายานี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมองในระยะยาวหรือไม่นั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีผู้คนหลายล้านคนใช้ยานี้" เขากล่าว การสำรวจการใช้ยาแห่งชาติในปี 2010 พบว่าผู้คนในสหรัฐอเมริกาที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป 15.9 ล้านคนใช้ยาอีในช่วงชีวิตของพวกเขา และมีคน 695,000 คนใช้ยาอีในเดือนก่อนการสำรวจ

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ], [ 5 ], [ 6 ], [ 7 ], [ 8 ], [ 9 ], [ 10 ]