ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถระบุจุดที่การแก่ชราเริ่มต้นได้แล้ว

ในโลกนี้แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่กลัวความแก่ของตัวเอง คุณอาจจะอยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หาประสบการณ์ชีวิต... แต่ไม่มีใครอยากแก่ลงอย่างกะทันหัน สัญญาณหลักของความแก่ชรามักจะเป็นความเจ็บป่วย ความอ่อนแอ ความกลัวว่าตัวเองจะไร้ค่าสำหรับใคร คนเรามักกลัวความแก่ชรา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามจดจำช่วงเวลาที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่เสมอ เพราะหากคุณรู้ว่ากระบวนการแก่ชราเริ่มต้นเมื่อใด ก็มีโอกาสที่คุณจะลองเลื่อนช่วงเวลานั้นออกไป

นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ทำการศึกษาวิจัยชุดหนึ่งที่เปิดเผยความลับของการเริ่มต้นของความชราของร่างกาย พวกเขาสามารถระบุได้ว่าเมื่อใดที่กระบวนการต่างๆ ของร่างกายจะเริ่มขึ้นอย่างไม่สามารถย้อนกลับได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลดลงของการผลิตสารที่เรียกว่า "ไมอีลิน" สารนี้มีหน้าที่ในการสร้างเส้นใยประสาท เนื่องจากเยื่อไมอีลินห่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง กระบวนการชราภาพของมนุษย์เริ่มต้นขึ้นเมื่อไมอีลินเริ่มถูกผลิตขึ้นช้าลง ส่งผลให้การทำงานของกลไกโครงกระดูกและกล้ามเนื้อของมนุษย์หยุดชะงัก ความจำเสื่อมลง และอาจเกิดโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งได้

การศึกษาที่ดำเนินการในคลินิกของมหาวิทยาลัยอเมริกันในไอโอวาประกอบด้วยการทดสอบจากผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวนหนึ่ง (ผู้ชายอายุระหว่าง 25 ถึง 80 ปี) ซึ่งแสดงระดับไมอีลินในร่างกาย และใช้การออกกำลังกายบางอย่างเพื่อกำหนดความเร็วของการเคลื่อนไหว โดยใช้การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าจุดสูงสุดของกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์เกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 ปี หรือแม่นยำกว่านั้นคือเมื่ออายุ 39 ปี ในวัยนี้ ระดับไมอีลินในร่างกายจะถึงจุดสูงสุด

ดังนั้น จึงปรากฏว่ากระบวนการชราภาพเริ่มต้นเมื่อคนเรามีอายุครบ 39 ปี เราไม่สามารถต่อสู้กับธรรมชาติได้ แต่คุณไม่ควรละทิ้งตัวเองเมื่ออายุใกล้จะ 40 ปี โดยทั่วไปแล้ว การแก่ชราเป็นกระบวนการที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งคนที่มีเหตุผลไม่ให้ชะลอการแก่ชราได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

การศึกษาด้านสังคมวิทยาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ทำงานทางจิตจะแก่ช้ากว่ามาก สมองของพวกเขาค้นหาและประมวลผลข้อมูลใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกิจกรรมของสมองจึงไม่ลดลง เนื่องจากสารที่รับผิดชอบต่อกระบวนการชราภาพไม่หยุดถูกผลิตขึ้น ความรู้และการใช้ภาษาต่างประเทศอย่างแข็งขันนั้นมีประโยชน์มาก หากบุคคลนั้นสามารถพูดได้หลายภาษาอย่างคล่องแคล่ว นั่นหมายความว่าความจำและคำศัพท์ของพวกเขาอยู่ในระเบียบ และยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดถึงวัยชรา นักสังคมวิทยายังเชื่ออีกด้วยว่าความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์ทางวรรณกรรม มีผลดีต่อการ "ฟื้นฟู" ร่างกายด้วย เงื่อนไขหลักในการรักษาร่างกายให้อยู่ในสภาพดีคือการรับรองกิจกรรมทางจิต ซึ่งการมีกิจกรรมทางจิตจะบ่งบอกถึงความสนใจในชีวิต

แน่นอนว่าการออกกำลังกายยังส่งผลดีต่อร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เดินเล่นในอากาศบริสุทธิ์ และเล่นเกมเป็นทีมจะช่วยให้คุณรู้สึกมีพลังและกระฉับกระเฉงมากขึ้นแม้จะอยู่ในวัยชราก็ตาม

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ]