ยาที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจในอาการชักจากโรคลมบ้าหมู

ศูนย์วิจัยมากกว่า 100 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกากำลังเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกครั้งใหม่ของยาที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการรักษาที่มีประสิทธิผลสำหรับอาการชักในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น

BHV-7000 กระตุ้นตัวรับโพแทสเซียมในสมอง ซึ่งทำให้สามารถควบคุมอาการชักได้ ดร. Taha Gholipour นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโกและนักวิจัยในพื้นที่ซึ่งทำการศึกษานี้ อธิบายว่ายาต้านโรคลมบ้าหมูชนิดอื่นๆ ที่แพทย์สั่งใช้กันทั่วไปจะมุ่งเป้าไปที่ช่องโซเดียมและแคลเซียมในเซลล์ประสาท ซึ่งได้ผลดีในผู้ป่วยบางรายแต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ผู้ป่วยโรคลมบ้าหมูประมาณ 40% จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านคนดื้อต่อยาที่ออกฤทธิ์ที่ช่องโซเดียมและแคลเซียม ซึ่งหมายความว่าการเกิดขึ้นของช่องทางที่สามซึ่งผ่านตัวรับโพแทสเซียมจะทำให้มีทางเลือกในการรักษาอาการชักเพิ่มมากขึ้น

“ช่องโพแทสเซียมไม่ใช่สิ่งใหม่หรือไม่เป็นที่รู้จักในชุมชนประสาทวิทยาของเราเลย – มีความพยายามมากมายในการศึกษาเส้นทางนี้ในอดีต – แต่เราไม่สามารถสร้างยาที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุดและควบคุมอาการชักได้อย่างมีประสิทธิผล” ดร. โกลีปูร์ กล่าว

“อย่างไรก็ตาม การศึกษาก่อนทางคลินิกหลายปีในห้องปฏิบัติการ ในแบบจำลองเซลล์ ในแบบจำลองสัตว์ และในการทดลองทางคลินิกในระยะเริ่มต้นในมนุษย์ได้แสดงให้เห็นว่ายาตัวนี้ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับได้ดี และเป็นยาควบคุมอาการชักที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างแน่นอน”

ในระยะแรกของการทดลอง ยานี้ได้รับการทดสอบกับผู้ป่วย 58 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายผิวขาวอายุ 40 ปี ผลข้างเคียงหลักที่พบในกลุ่มผู้เข้าร่วมจำนวนเล็กน้อย ได้แก่ อาการปวดศีรษะและความรู้สึกไม่สบายในช่องท้อง ซึ่งอาการจะหายไปหลังจากหยุดใช้ยา

บริษัท Biohaven Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชชีวภาพที่ตั้งอยู่ในคอนเนตทิคัต กำลังดำเนินการรับสมัครผู้เข้าร่วม 390 รายในการทดลองทางคลินิกในระยะที่ 2 และ 3 เพื่อตรวจสอบว่ายาตัวนี้สามารถลดความถี่ของอาการชักในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมบ้าหมูแบบโฟกัสซึ่งทำให้เกิดอาการชักในส่วนใดส่วนหนึ่งของสมองได้หรือไม่

ผู้เข้าร่วมจะต้องมีอายุระหว่าง 18 ถึง 75 ปี และจะถูกสุ่มให้รับยาหนึ่งในสองโดสหรือยาหลอก (ขนาดที่ไม่มีฤทธิ์ที่ใช้เพื่อการเปรียบเทียบ)

โรคลมบ้าหมูเฉพาะที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างน้อย 1 ปี ผู้เข้าร่วมต้องมีอาการชักอย่างน้อย 4 ครั้งในระยะเวลา 28 วัน ใช้ยาต้านโรคลมบ้าหมูอย่างน้อย 2 ชนิดไม่ผ่าน และใช้ยาต้านโรคลมบ้าหมู 1 หรือ 3 ชนิดในปริมาณคงที่