ผู้หญิงหลังการทำเคมีบำบัดจะมีโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้น

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ค้นพบว่ามีวิธีช่วยให้ไข่ขนาดเล็กเจริญเติบโตเป็นไข่ที่แข็งแรง เพิ่มโอกาสที่ผู้หญิงที่ได้รับเคมีบำบัดหรือฉายรังสีจะเข้ารับการปฏิสนธิในหลอดแก้วได้ สำเร็จ

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติทั่วโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 ถือเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ชั้นนำ

บ่อยครั้งที่ผู้หญิงที่เอาชนะมะเร็งและได้รับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัดไม่สามารถมีบุตรได้เนื่องจากไข่ของพวกเธอถูกทำลายด้วยรังสี

แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะค้นพบวิธีเก็บรักษาไข่และแม้แต่ตัวอ่อนด้วยการแช่แข็ง แต่วิธีนี้ใช้ได้กับเด็กผู้หญิงที่เข้าสู่วัยรุ่นเท่านั้น แต่กระบวนการเนื้องอกมักได้รับการวินิจฉัยในเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยมาก ซึ่งทำให้โอกาสตั้งครรภ์ของเด็กผู้หญิงลดลงเหลือศูนย์

สตรีวัยรุ่นอาจเผชิญกับโรคต่างๆ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมหมวกไต และมะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน หลังจากเอาเนื้องอกมะเร็งออกแล้ว แพทย์จะสั่งให้ผู้ป่วยเข้ารับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด ซึ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของร่างกายและรักษาชีวิตไว้ แต่ขั้นตอนเหล่านี้นำไปสู่การทำหมันในร่างกายของผู้หญิง

วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการรักษาความสามารถในการมีบุตรคือการแช่แข็งเนื้อเยื่อรังไข่ที่มีตัวอ่อนจากไข่ในอนาคตก่อนเข้ารับการทำเคมีบำบัด ฟอลลิเคิลดั้งเดิมซึ่งเป็นวัสดุทางพันธุกรรมของผู้หญิงเองสามารถนำไปใช้ได้หลังจากผ่านไปหลายปี

จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาวิธีทำให้ไข่ที่ยังไม่โตเต็มที่นอกร่างกายได้ แต่พวกเขาค้นพบว่าสารเคมีที่ยับยั้งโมเลกุล PTEN สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของไข่ขนาดเล็กได้

“การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้สารยับยั้ง PTEN มีประสิทธิภาพมากในการกระตุ้นรังไข่ขนาดเล็กในหลอดทดลอง” ศาสตราจารย์ Liu Kui จากภาควิชาเคมีและชีววิทยาโมเลกุลที่มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์กกล่าว “สิ่งนี้อาจช่วยเหลือผู้หญิงที่มีไข่ที่ยังไม่โตเต็มที่สำหรับการทำ IVF”