ยาต้านอาการซึมเศร้าสามารถช่วยส่งยาอื่น ๆ ไปที่สมองได้

ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ยาต้านอาการซึมเศร้าในกลุ่มยับยั้งการดูดซึมเซโรโทนินแบบเลือกสรร (SSRI) ถือเป็นยาหลักที่ใช้รักษาอาการซึมเศร้าและความผิดปกติทางจิตอื่นๆ ทั่วโลก เฉพาะในสหราชอาณาจักรเท่านั้น มีการสั่งจ่ายยาเหล่านี้หลายสิบล้านฉบับต่อปี อย่างไรก็ตาม กลไกการออกฤทธิ์และผลกระทบโดยรวมต่อร่างกายยังคงไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

ปัจจุบัน งานวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์จาก King's College ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Psychiatryโดยระบุถึงกระบวนการทางชีววิทยาที่สำคัญที่ SSRIs มุ่งเป้า และเสนอแนะการประยุกต์ใช้ทางคลินิกใหม่ๆ สำหรับยาเหล่านี้

ในการศึกษาครั้งนี้ SSRIs ในปัจจุบันทั้งหมดได้รับการทดสอบในเซลล์ประเภทต่างๆ ที่เพาะเลี้ยงในจานเพาะเชื้อ โดยใช้ความเข้มข้นของยาที่ใกล้เคียงกับที่พบในเลือดของผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดอาการซึมเศร้า ที่น่าประหลาดใจคือ พบว่ายาต้านอาการซึมเศร้าเกือบทั้งหมดเข้าไปขัดขวางความสามารถของเซลล์ในการลำเลียงสารเข้าและออกผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการขนส่งเยื่อหุ้มเซลล์

นอกจากนี้ การฉีดฟลูวอกซามีนซึ่งเป็นยาต้านอาการซึมเศร้าเพียงครั้งเดียวเข้าไปในหนู ทำให้สารประกอบเรืองแสงซึ่งโดยปกติจะตกค้างอยู่ภายนอกสมอง สะสมภายในสมองและผ่านชั้นกั้นเซลล์ที่กั้นสมองจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้

ดร. Oleg Glebov จาก King's IoPPN กล่าวว่า "เนื่องจากเราทราบกันน้อยมากเกี่ยวกับผลกระทบในวงกว้างของยาต้านอาการซึมเศร้า เราจึงอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่ายาเหล่านี้ส่งผลต่อเซลล์ในสมองและร่างกายของเราอย่างไร เราพบว่ายาต้านอาการซึมเศร้าส่วนใหญ่ควบคุมกระบวนการทางชีววิทยาหลักเดียวกันในเนื้อเยื่อหลายชนิด ซึ่งอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อภาวะซึมเศร้า"

“นอกจากนี้ ข้อมูลของเรายังแสดงให้เห็นว่ายาต้านอาการซึมเศร้าเพียงโดสเดียวอาจเพียงพอที่จะเปิดทางกั้นเลือดและสมองเพื่อส่งยาอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราหวังว่าการค้นพบนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางคลินิกและลดต้นทุนการรักษาด้วยยาใหม่สำหรับโรคสมองเสื่อมซึ่งปัจจุบันเกินเอื้อมสำหรับผู้คนนับล้านที่ต้องการยาเหล่านี้ นอกจากนี้ เรายังตื่นเต้นกับแนวโน้มที่จะได้ศึกษาวิจัยว่ายาต้านอาการซึมเศร้าสามารถช่วยส่งยาไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่เข้าถึงได้ยากได้หรือไม่”

ยังไม่มีความชัดเจนว่า SSRI ควบคุมการขนส่งเยื่อหุ้มเซลล์ได้อย่างไร และการเปิดเผยรายละเอียดในระดับโมเลกุลจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายสาขาวิชา นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องพิจารณาในทางคลินิกว่า SSRI เหมาะสมสำหรับการส่งยาอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายมนุษย์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่การศึกษาครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของยาเก่าแก่เหล่านี้ ซึ่งมีอายุกว่า 30 ปี โดยในครั้งนี้เป็นการช่วยให้ยาอื่นๆ ทำหน้าที่ของมันได้